โธมัส แฟร้งค์ มองการเสริมทัพตลาด อยากได้ เนธาน คอลลินส์

Browse By

โธมัส แฟร้งค์ เฮดโค้ชชาวเดนมาร์กของท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ กำลังวางแผนเสริมความแข็งแกร่งให้แนวรับของทีมในตลาดซื้อขายนักเตะรอบถัดไป โดยมีชื่อของ เนธาน คอลลินส์ กองหลังชาวไอริชของเบรนท์ฟอร์ด เป็นเป้าหมายหลักที่เขาต้องการดึงมาร่วมงานอีกครั้ง แหล่งข่าวใกล้ชิดเปิดเผยว่ากุนซือรายนี้ยังคงติดตามฟอร์มของลูกทีมเก่ามาโดยตลอด และเชื่อว่าคอลลินส์จะสามารถยกระดับเกมรับของสเปอร์สได้ทันทีหากได้ย้ายมาอยู่ด้วยกันอีกครั้งในถิ่นท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สเตเดี้ยม ฟุตบอล

โธมัส แฟร้งค์ เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนของสเปอร์สเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา หลังจากที่สโมสรตัดสินใจเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทีมเพื่อยกระดับผลงานให้กลับมาอยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์อีกครั้ง เขาได้รับความไว้วางใจจากบอร์ดบริหารให้สร้างทีมตามแนวทางของตัวเอง ซึ่งหนึ่งในจุดที่เขาให้ความสำคัญมากที่สุดคือ “แนวรับ” เพราะในฤดูกาลก่อน สเปอร์สเสียประตูมากเกินไปในหลายเกมสำคัญ ทำให้ทีมพลาดโอกาสคว้าพื้นที่ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ไปอย่างน่าเสียดาย

ในฐานะที่เป็นโค้ชซึ่งมีปรัชญาการเล่นชัดเจน โธมัส แฟร้งค์ เชื่อว่าการเริ่มต้นสร้างทีมที่มั่นคงต้องมาจากแนวรับที่แข็งแกร่ง เขาต้องการนักเตะที่มีทั้งพละกำลัง ความเร็ว และความเข้าใจในระบบเกมรับที่ยืดหยุ่นได้ ซึ่งเนธาน คอลลินส์ ถือเป็นนักเตะที่ตอบโจทย์ในทุกด้าน คอลลินส์เป็นผู้เล่นที่โธมัส แฟร้งค์เคยร่วมงานอย่างใกล้ชิดในสมัยอยู่เบรนท์ฟอร์ด และเป็นหนึ่งในลูกทีมที่เขาชื่นชมมากที่สุดในเรื่องของความเป็นมืออาชีพ

ในฤดูกาล 2023-24 ที่ผ่านมา คอลลินส์ลงเล่นให้เบรนท์ฟอร์ดไปกว่า 30 นัดในพรีเมียร์ลีก และได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในแนวรับที่มีพัฒนาการโดดเด่นที่สุดในลีก เขามีจุดเด่นในเรื่องของการอ่านเกม การเข้าปะทะที่แม่นยำ และการเล่นลูกกลางอากาศที่แข็งแกร่ง สไตล์การเล่นของเขายังเหมาะสมกับระบบที่ใช้กองหลังสามคน ซึ่งเป็นแท็กติกที่โธมัส แฟร้งค์ถนัดและมักใช้บ่อยในช่วงคุมเบรนท์ฟอร์ด

แหล่งข่าวภายในเผยว่า สเปอร์สมีแผนจะเปิดการเจรจากับเบรนท์ฟอร์ดในช่วงตลาดเดือนมกราคม 2026 โดยพร้อมเสนอค่าตัวราว 40 ล้านปอนด์เพื่อดึงตัวคอลลินส์มาร่วมทีม ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่สมเหตุสมผลเมื่อเทียบกับอายุและศักยภาพของนักเตะวัย 23 ปีรายนี้ เบรนท์ฟอร์ดยังมีแนวโน้มที่จะพิจารณาหากข้อเสนอเป็นไปในระดับที่เหมาะสม เพราะพวกเขาเองก็เตรียมสร้างทีมใหม่เช่นกัน

สำหรับโธมัส แฟร้งค์แล้ว การได้ร่วมงานกับลูกทีมเก่าอีกครั้งไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะเขาเชื่อว่าความเข้าใจระหว่างโค้ชและนักเตะเป็นสิ่งสำคัญในระบบการเล่นที่เน้นรายละเอียด เขามักเลือกใช้นักเตะที่เข้าใจปรัชญาการเล่นของตนเอง และคอลลินส์ก็เป็นหนึ่งในนั้น “เนธานเป็นนักเตะที่มีวินัยสูง เขาเรียนรู้เร็ว และมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาอยู่เสมอ” แฟร้งค์เคยกล่าวไว้เมื่อครั้งคุมเบรนท์ฟอร์ด ซึ่งประโยคนี้ยังคงสะท้อนถึงเหตุผลว่าทำไมเขาถึงอยากได้กองหลังรายนี้กลับมาอยู่ด้วยอีกครั้ง

ในช่วงเริ่มต้นฤดูกาลใหม่ของสเปอร์ส ทีมยังคงมีปัญหาในเกมรับอยู่บ้าง โดยเฉพาะในจังหวะรับมือกับลูกตั้งเตะและการป้องกันบอลยาว ซึ่งเป็นสิ่งที่โธมัส แฟร้งค์ต้องการแก้ไขอย่างเร่งด่วน เขามองว่าคอลลินส์จะเข้ามาเติมเต็มในจุดนี้ได้อย่างลงตัว เพราะนักเตะรายนี้มีความสามารถในการอ่านจังหวะก่อนลูกตกได้ดีเยี่ยม และมีความกล้าในจังหวะป้องกัน ซึ่งแตกต่างจากกองหลังบางรายที่ขาดความเด็ดขาดในจังหวะสุดท้าย

แม้แฟนบอลบางส่วนอาจมองว่าการเสริมแนวรับอาจไม่ใช่ปัญหาหลักของสเปอร์ส เพราะทีมยังต้องการเสริมความคมในแดนหน้า แต่ในมุมมองของโธมัส แฟร้งค์ เขาเชื่อว่าการมีแนวรับที่มั่นคงคือรากฐานของการเล่นฟุตบอลที่ยั่งยืน เขาต้องการสร้างทีมที่สมดุลทั้งรุกและรับ โดยมีแนวคิดคล้ายกับสโมสรใหญ่อย่างแมนฯ ซิตี้ หรืออาร์เซน่อล ที่ประสบความสำเร็จจากการควบคุมเกมผ่านการครองบอลและระบบรับที่เหนียวแน่น

การมาของโธมัส แฟร้งค์ยังนำความเปลี่ยนแปลงในเชิงแท็กติกมาสู่สเปอร์สอย่างชัดเจน เขาพยายามปรับให้ทีมเล่นเกมเพรสซิ่งสูง แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องรักษาความมั่นคงในแนวรับ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องอาศัยกองหลังที่มีสมาธิและการอ่านเกมที่แม่นยำ คอลลินส์คือหนึ่งในนักเตะไม่กี่คนในพรีเมียร์ลีกที่สามารถเล่นได้ทั้งในระบบแบ็กโฟร์และกองหลังสามคน ทำให้เขาเป็นตัวเลือกที่ยืดหยุ่นและเหมาะกับแนวทางของสเปอร์สในระยะยาว

ในมุมมองของผู้เชี่ยวชาญจาก ufabet เว็บตรงทางเข้า เล่นได้ทุกที่ ได้วิเคราะห์ไว้อย่างน่าสนใจว่า การที่โธมัส แฟร้งค์มองหานักเตะที่เขาเคยร่วมงานมาก่อน เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการสร้างรากฐานความไว้วางใจในทีมใหม่ เพราะในระดับพรีเมียร์ลีก การสื่อสารและความเข้าใจระหว่างโค้ชกับผู้เล่นถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ระบบการเล่นสำเร็จได้เร็วขึ้น UFABET ยังมองว่าคอลลินส์จะเข้ามามีบทบาทคล้ายกับเวอร์จิล ฟาน ไดค์ ของลิเวอร์พูล คือเป็นผู้นำแนวรับและช่วยสร้างความมั่นใจให้เพื่อนร่วมทีมได้

นอกจากคอลลินส์แล้ว สเปอร์สยังมีแผนเสริมผู้เล่นในตำแหน่งฟูลแบ็กและมิดฟิลด์ตัวรับ เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับเกมรับในภาพรวม แต่ชื่อของคอลลินส์ยังคงเป็นเป้าหมายอันดับหนึ่งในลิสต์ เพราะโธมัส แฟร้งค์เชื่อว่ากองหลังรายนี้จะกลายเป็นหัวใจสำคัญในระยะยาว หากสโมสรสามารถคว้าตัวมาร่วมทีมได้สำเร็จ

เมื่อพูดถึงเนธาน คอลลินส์ เขาเป็นหนึ่งในนักเตะไอริชที่มีพัฒนาการต่อเนื่องในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หลังจากเริ่มต้นอาชีพกับสโต๊ค ซิตี้ ก่อนจะย้ายไปเบิร์นลี่ย์ และต่อมาเบรนท์ฟอร์ดดึงตัวมาร่วมทีมในปี 2023 ฟอร์มการเล่นของเขาพัฒนาอย่างรวดเร็วภายใต้การดูแลของโธมัส แฟร้งค์ ซึ่งช่วยให้เขาเข้าใจรายละเอียดทางแท็กติกมากขึ้น และกลายเป็นผู้เล่นที่มีความสมดุลระหว่างเทคนิคและพละกำลัง

แฟนบอลเบรนท์ฟอร์ดหลายคนยังคงจดจำช่วงเวลาที่คอลลินส์เป็นกำลังสำคัญในแนวรับได้ดี เขาเป็นผู้นำทั้งในสนามและนอกสนาม มีบุคลิกที่สงบเยือกเย็นแต่ไม่เคยยอมแพ้ ความเป็นมืออาชีพของเขาได้รับคำชมจากเพื่อนร่วมทีมและสื่ออังกฤษอย่างต่อเนื่อง การได้ย้ายไปสเปอร์สภายใต้โค้ชคนเดิมจึงถูกมองว่าเป็น “การกลับมาร่วมงานในฝัน” ที่อาจพัฒนาอาชีพของเขาไปอีกขั้น

ในขณะเดียวกัน สื่ออังกฤษหลายสำนักรายงานว่าเบรนท์ฟอร์ดอาจไม่ยอมปล่อยตัวง่าย ๆ เพราะคอลลินส์ยังคงเป็นผู้เล่นสำคัญในระบบของทีม และสัญญาของเขายังเหลืออีกถึงปี 2028 อย่างไรก็ตาม หากสเปอร์สสามารถยื่นข้อเสนอที่โดนใจ พร้อมโบนัสตามผลงาน สโมสรอาจพิจารณาอย่างจริงจัง เพราะพวกเขาเองก็มีเป้าหมายที่จะลงทุนในนักเตะอายุน้อยรายอื่นเพื่ออนาคต

บอร์ดบริหารของสเปอร์สก็สนับสนุนแนวคิดของโธมัส แฟร้งค์ อย่างเต็มที่ เนื่องจากพวกเขาเห็นตรงกันว่า ทีมต้องการนักเตะที่มีความเข้าใจในแท็กติกและเล่นได้หลายบทบาท ซึ่งคอลลินส์สามารถเติมเต็มสิ่งนั้นได้อย่างครบถ้วน การได้ตัวเขามาร่วมทีมไม่เพียงช่วยยกระดับเกมรับ แต่ยังช่วยให้ทีมมีทางเลือกในการจัดระบบที่ยืดหยุ่นขึ้นในเกมยุโรปหรือเกมใหญ่ในพรีเมียร์ลีก

สิ่งที่น่าสนใจคือ โธมัส แฟร้งค์ ยังเชื่อมั่นว่า การสร้างทีมจากนักเตะที่มีความสัมพันธ์อันดีต่อกันและเข้าใจระบบตั้งแต่วันแรก จะช่วยลดเวลาในการปรับตัวได้มาก เขาต้องการให้สเปอร์สกลายเป็นทีมที่เล่นด้วยความเข้าใจโดยไม่ต้องอาศัยนักเตะซูเปอร์สตาร์ราคาแพง ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางที่ ufabet บอลชุดออนไลน์ ราคาดีที่สุด วิเคราะห์ไว้ว่า สเปอร์สกำลังเดินในเส้นทางที่ยั่งยืนมากขึ้น โดยเน้นความมั่นคงของระบบมากกว่าความหวือหวาชั่วคราว

สำหรับแฟนบอล “ไก่เดือยทอง” การได้เห็นกุนซือคนใหม่ที่มีวิสัยทัศน์ชัดเจนเช่นนี้ถือเป็นสัญญาณบวก พวกเขาเฝ้ารอการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงมานานหลายปี และโธมัส แฟร้งค์ดูเหมือนจะเป็นคนที่สามารถปลุกจิตวิญญาณของทีมได้อีกครั้ง เขามีสไตล์การทำทีมที่เน้นวินัย ความร่วมมือ และพลังใจ ซึ่งเหมาะกับวัฒนธรรมของสโมสรที่ภาคภูมิในความมุ่งมั่นมากกว่าความสำเร็จชั่วคราว

เมื่อพูดถึงแผนการในระยะยาว ยังต้องการสร้างทีมที่มีแกนหลักอายุน้อยซึ่งสามารถพัฒนาไปพร้อมกันในอีก 3-4 ปีข้างหน้า การดึงตัวเนธาน คอลลินส์จะสอดคล้องกับเป้าหมายนั้นอย่างสมบูรณ์ เพราะเขาเป็นนักเตะที่ยังหนุ่ม มีศักยภาพสูง และสามารถเติบโตไปพร้อมกับทีมได้ในระยะยาว

ท้ายที่สุด การเสริมทัพของสเปอร์สในรอบถัดไปจะเป็นบทพิสูจน์วิสัยทัศน์ของโธมัส แฟร้งค์ อย่างแท้จริง ว่าเขาจะสามารถเปลี่ยนทีมที่เคยขาดความแน่นอนให้กลายเป็นทีมที่แข็งแกร่งและต่อกรกับบรรดาทีมยักษ์ได้หรือไม่ แม้จะยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของยุคใหม่ แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดคือ ความตั้งใจและแผนระยะยาวที่ชัดเจน

หากการย้ายตัวของเนธาน คอลลินส์เกิดขึ้นจริง มันจะเป็นสัญญาณของการสร้างทีมที่มีทิศทางชัดเจนภายใต้กุนซือชาวเดนมาร์ก และอาจเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ที่แฟนบอลสเปอร์สรอคอยมานาน ทีมที่ไม่เพียงเล่นฟุตบอลอย่างสวยงาม แต่ยังเต็มไปด้วยความแข็งแกร่งและสมดุลในทุกมิติของเกม

โธมัส แฟร้งค์ เคยกล่าวไว้อย่างน่าจดจำว่า “ฟุตบอลไม่ใช่เรื่องของชื่อเสียง แต่คือเรื่องของทีมที่เข้าใจกัน” และหากเขาสามารถนำแนวคิดนี้มาประยุกต์ใช้ในถิ่นลอนดอนเหนือได้อย่างสมบูรณ์ สเปอร์สอาจไม่ใช่แค่ทีมที่ลุ้นท็อปโฟร์อีกต่อไป แต่อาจกลายเป็นหนึ่งในทีมที่ต่อสู้เพื่อแชมป์พรีเมียร์ลีกในอนาคตอันใกล้ ซึ่ง สมัคร ufabet ล่าสุด โปรโมชั่นจัดเต็ม เองก็ได้วิเคราะห์ว่าฤดูกาล 2026 อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของสโมสรแห่งนี้ หากพวกเขาเดินหน้าตามแผนการเสริมทัพที่ถูกวางไว้อย่างแม่นยำโดยเฮดโค้ชชาวเดนมาร์กคนนี้

และสำหรับแฟนบอลทั่วโลก การจับตาดูว่าการกลับมาร่วมงานกันระหว่างโธมัส แฟร้งค์ กับเนธาน คอลลินส์จะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ คงเป็นหนึ่งในเรื่องราวที่น่าสนใจที่สุดของตลาดซื้อขายรอบหน้า เพราะมันไม่ได้เป็นเพียงการย้ายทีมธรรมดา แต่เป็นการต่อยอดความเชื่อ ความเข้าใจ และความมุ่งมั่นระหว่างโค้ชกับลูกทีม ที่อาจกลายเป็นจิ๊กซอว์สำคัญในการพาสเปอร์สกลับไปยืนบนจุดสูงสุดของฟุตบอลอังกฤษอีกครั้งอย่างภาคภูมิ